ในดาวฤกษ์ เชื้อเพลิงที่พบมากที่สุดในเอกภพ Universe คือ ไฮโดรเจน โดยแรงโน้มถ่วงจากมวลของดวงดาว จะก่อให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นด้วยกระบวนการลูกโซ่โปรตอน Proton – Proton Chain หรือ P – P Chain และมันคือสภาวะจำเป็นสำหรับการผลิตพลังงานฟิวชั่น .. นักวิทยาศาสตร์ และผู้กำหนดนโยบาย เชื่อมั่นว่า มนุษยชาติอยู่บนขอบของ ยุคนิวเคลียร์ฟิวชั่น ‘Age of Fusion’ .. โครงการวิจัย ITER และโรงงานสาธิตทดลองในโครงการ จะสามารถสร้างเทคโนโลยีพลังงานเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของมนุษยชาติในอนาคตอันใกล้ มันปลอดภัย และไม่ได้ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป .. เชื้อเพลิงของมันมีมากมายไม่มีวันหมดสิ้น ด้วยทรัพยากรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และหาพบได้ทั่วไปในธรรมชาติ .. นอกจากนี้ ITER จะทำหน้าที่เป็นฐานการทดสอบสำหรับเทคโนโลยีฟิวชั่นที่สำคัญอีกหลายรายการ รวมถึงการจัดการกับไอโซโทปของไฮโดรเจน การควบคุมพลาสม่า การวิจัยขั้นสูง และการบรรเทาปัญหาการหยุดชะงัก แม้ว่ามันจะยังมิได้ทำงานเป็นโรงไฟฟ้า แต่ ITER จะเป็นเครื่องมือหลักในการทดสอบทดลองเพื่อให้ได้ข้อค้นพบที่เป็นคุณลักษณะจำเป็นด้านความปลอดภัยสำหรับโรงไฟฟ้าฟิวชั่นในอนาคตได้ต่อไป .. อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจเกี่ยวกับฟิสิกส์ของพลังงานฟิวชั่นปัจจุบัน มีมากกว่าในสมัยของ Eddington ก็จริง แต่การผลิตกำลังไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จากฟิวชั่น จะยังคงเป็นเป้าหมายมากกว่าความเป็นจริง ..
ขดลวดเหล่านี้สร้าง “กรง” แม่เหล็กรูปวงแหวนบิดเบี้ยว ซึ่งก๊าซไฮโดรเจนสองสามมิลลิกรัม จะถูกทำให้ร้อนจนถึงอุณหภูมิสูงประมาณ 100 ล้าน oC และเปลี่ยนสถานะสสารเป็นพลาสม่า ที่อาจใช้เวลานานถึง 30 นาที Wendelstein 7 – X มีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของสเตลเรเตอร์ที่จำเป็นในการทำงานอย่างต่อเนื่องพร้อมประสิทธิภาพสูงที่มีเสถียรภาพกว่า และควบคุมได้ .. ประโยชน์ที่เป็นไปได้หลายประการของการใช้ Fusion Power เป็นแหล่งพลังงานนั้น ถูกมองว่าเป็นวิธีการผลิตพลังงานในอุดมคติมาช้านาน เชื้อเพลิงไอโซโทปของไฮโดรเจน หาได้ง่าย และผลพลอยได้เพียงอย่างเดียว คือฮีเลียม แตกต่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับ โรงไฟฟ้าน้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิล ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน หรือโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิชชั่น .. โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชั่น สามารถทำงานได้ตลอดเวลา แต่ไม่มีการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตราย หรือไอโซโทปรังสีที่มีอายุยาวนาน ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุกับ Fusion Reaction มีจำกัดมาก หากเกิดปัญหาขึ้น ปฏิกิริยาฟิวชั่นก็จะสามารถทำให้หยุดลงทันทีได้ และแม้ว่า Fusion จะใช่ว่าปราศจากความเสี่ยงเลย แต่มันก็ไม่สามารถระเบิด หรือปล่อยพลังงานออกไปในวงกว้างได้ .. ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การยอมรับของสาธารณชน และระดับการรับรู้เกี่ยวกับนิวเคลียร์ฟิวชั่น Fusion Reactor จะต้องต่อสู้กับความเข้าใจผิดว่ามันก็เหมือนกับนิวเคลียร์ฟิชชั่น Fission Reactor ..
การใช้ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นในการผลิตกระแสไฟฟ้า ยังคงเป็นไปตามทฤษฎี .. นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับโอกาสในอนาคตอันใกล้ .. เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นสามารถจำลองแหล่งพลังงานของดวงอาทิตย์บนโลกผ่านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ..
พลังงานฟิวชั่น Fusion Energy กำลังใกล้จะมาถึง และอาจจะเร็วกว่าที่คาดคิด .. ปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น Fusion Reactor ยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ .. Autolifethailandวิเคราะห์ เจาะลึก ทุกข้อเท็จจริง รีวิวรถยนต์แบบตรงไปตรงมา โดย นิธิ ท้วมประถม Autolifethailand.tv. Samsung บุกตลาดลูกค้าองค์กรด้วย “Galaxy for Work” ครั้งแรกของไลน์อัพผลิตภัณฑ์ครบครัน…
ในฐานะแหล่งพลังงานสะอาด และปลอดภัยนั้น นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย มั่นใจ นิวเคลียร์ฟิวชั่น Nuclear Fusion จะมีข้อได้เปรียบหลายประการเหนือกว่านิวเคลียร์ฟิชชั่น Nuclear Fission ซึ่งรวมถึงการลดกัมมันตภาพรังสีในปฏิกิริยานิวเคลียร์ และกากนิวเคลียร์ระดับสูงที่มีเพียงเล็กน้อย ปริมาณสำรองเชื้อเพลิงที่มากมายเพียงพอ และความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น คือ จุดเด่น .. Banpu มีมติแต่งตั้ง สินนท์ ว่องกุศลกิจ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มีผลในวันที่ 2 เมษายน 2567 เผยปี 66 กำไรสุทธ… ขณะที่เราสามารถผนวกความรู้ที่ประยุกต์ แล้วนำมาจัดการข้อมูลผ่านเทคโนโลยีหรือระบบดิจิทัล เพื่อช่วยให้เราใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย และทำให้การอยู่อาศัยภายในบ้านมีความสบายและมีความสุขยิ่งขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในอนาคต.
อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิ ความดันรวมกันที่จำเป็น และระยะเวลากักขังพลาสม่า ได้รับการพิสูจน์จากงานทดลองแล้วว่า ไม่ง่ายเลยสำหรับกระบวนการผลิตให้ไปสู่ลักษณะการใช้งานได้จริงเชิงพาณิชย์ด้วยความประหยัด .. การวิจัยเกี่ยวกับเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่น Fusion Reactor เริ่มขึ้นในปี 1940 แต่จนถึงปัจจุบัน ไม่มีการออกแบบใดที่ได้ Output กำลังไฟฟ้าจากฟิวชั่นมากไปกว่า Input กำลังไฟฟ้าที่ใส่เข้าไป ซึ่งถือว่ายังขัดต่อจุดประสงค์วิจัย .. ปัญหาที่สองที่ส่งผลต่อปฏิกิริยาทั่วไป คือ การจัดการนิวตรอนที่ปล่อยออกมาระหว่างปฏิกิริยานิวเคลียร์ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป มันจะย่อยสลายวัสดุทั่วไปจำนวนมากที่ใช้งานอยู่ภายในห้องเตาปฏิกรณ์นั้นเอง .. ข้อตกลง ITER ปัจจุบันได้มีการลงนามล่าสุดในปี 2550 และสถานที่ใกล้กับเมือง Aix – en – Provence ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ก่อสร้างปฏิกรณ์ฟิวชั่นทดลองหลักในการผลิตกำลังไฟฟ้าได้จริงแห่งแรก .. อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายอย่างมากในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ การก่อสร้างใช้เวลาหลายปี มันเป็นไปอย่างล่าช้า ..
หลายทศวรรษของการคาดการณ์ที่กระตือรือร้นมากเกิน ทำให้เกิดเรื่องตลกที่ว่า Fusion เป็นแหล่งพลังงานแห่งอนาคต แต่มันอาจจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป เนื่องเพราะมันไม่ได้ง่ายเลย .. แต่อย่างไรก็ตาม การทดสอบทดลองปัจจุบันรุดหน้าไปอย่างมากจน Fusion อาจจะมิใช่ความฝันอีกต่อไป เพราะมันกำลังจะเกิดขึ้นแล้วในอีกไม่นานเกินรอแน่นอน .. เป็นรูปแบบการผลิตกำลังไฟฟ้า ซึ่งจะสร้างกระแสไฟฟ้าโดยใช้ความร้อนจาก ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น Nuclear Fusion Reactions .. ในกระบวนการหลอมรวมนิวเคลียสของอะตอมที่เบากว่าสองตัวรวมกันเป็นนิวเคลียสที่หนักกว่า ในขณะที่การปลดปล่อยพลังงานเกิดขึ้น อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมพลังงานนี้ เรียกว่า เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น Nuclear Fusion Reactor ..
พวกเขาทั้งหมดกำลังมองหาเส้นทางสู่การหลอมรวม Fusion ที่ง่ายกว่า ขนาดเล็กกว่า และถูกกว่า ITER .. จุดมุ่งหมายของโครงการนี้ ได้แก่ Wendelstein 7 – X หนึ่งในอุปกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นที่ใหญ่ที่สุด และเป็นอุปกรณ์ประเภทสเตลลาแรตเตอร์ Stellarator Type ที่ล้ำหน้าที่สุด มีวัตถุประสงค์เพื่อนำแนวคิดสเตลลาแรตเตอร์มาสู่ความสมบูรณ์ในโรงไฟฟ้าที่ผลิตกำลังไฟฟ้าโดยใช้ความร้อนจากการหลอมรวมนิวเคลียสของไฮโดรเจน .. นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมหลายคน คัดค้านพลังงานนิวเคลียร์โดยอ้างถึงอันตรายของมัน และรวมถึงความยากลำบากในการกำจัดกากกัมมันตรังสี แต่นักวิทยาศาสตร์หลายท่าน ยังระบุว่า นิวเคลียร์ปลอดภัยกว่าแหล่งพลังงานส่วนใหญ่อื่น ๆ ..
ในระหว่างการประชุมสามัญประจำปีของ IAEA ได้มีการจัดเสวนาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชั่น เพื่อหารือเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชั่น ไปสู่การผลิตกำลังไฟฟ้าด้วยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชั่นที่สะอาด และปลอดภัย .. เป็นที่น่าสังเกตว่ากรอบเวลาที่มีแนวโน้มในการมาถึงของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชั่น จะใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิชชั่นในสหรัฐฯ หลายแห่งกำลังใกล้จะสิ้นสภาพ และ/หรือ สัญญาใบอนุญาตหมดอายุลง สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero Emissions ภายในปี 2050 หรือ พ.ศ.2593 สำหรับการลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ Net Zero ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างมากทั่วโลก .. ทั้งนี้ ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ พลังงานฟิวชั่น Fusion Energy จะเป็นประโยชน์สุดยอดต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมของมนุษยชาติที่ไร้ขีดจำกัดในอนาคตได้อย่างแน่นอน .. นิวเคลียร์ฟิวชั่นสร้างพลังงานโดยใช้ความร้อนที่ปล่อยออกมาเมื่อนิวเคลียสของไฮโดรเจน เปลี่ยนเป็นสถานะพลาสม่าของสสาร และหลอมรวมเชื้อเพลิงให้กลายเป็นฮีเลียม สเตลลาเรเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสองประเภทของเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นแม่เหล็กภายใต้การพัฒนาในปัจจุบัน มีพื้นฐานมาจากสนามแม่เหล็กที่ปรับให้เหมาะสมซึ่งปกป้องพลาสม่าร้อนจัดจากผนังเย็น ..
พลังงานคลื่น (Wave Power) ความคิดที่จะนำพลังงานคลื่นมาใช้นั้นมีแนวคิดมานานแล้ว ซึ่งทางเทคนิคนั้นคลื่น คือรูปแบบที่เกิดขึ้นจากพลังงานลมที่พัดผ่านทะเล พลังงานคลื่นถูกวัดเป็นกิโลวัตต์ (KW) ต่อหนึ่งเมตรของแนวชายฝั่ง โดยชายฝังทะเลของสหรัฐฯ นั้น มีศักยภาพพลังงานคลื่นประมาณ 252 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี. แม้ว่าผู้วางแผนทรัพยากรในระบบสาธารณูปโภค อาจคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเริ่มเตรียมผลิตกำลังไฟฟ้าจาก Fusion แต่เวลาของมัน ได้ขยับใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อมันกลายเป็นตัวเลือกสำคัญควบคู่ไปกับโครงการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่จากแหล่งพลังงานรูปแบบอื่น ๆ มันจึงน่าตื่นเต้นอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของมนุษยชาติ .. ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตกำลังไฟฟ้า จึงต้องเร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับความก้าวหน้าของ Fusion Power ในปัจจุบัน และสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ชัดเจน เพราะการผลิตกำลังไฟฟ้าจากปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นนี้นั้น มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจริงในเพียงช่วงทศวรรษหน้าเท่านั้น .. นักวิทยาศาสตร์หลายท่าน ระบุว่า นิวเคลียร์ฟิวชั่นปลอดภัยกว่าแหล่งพลังงานส่วนใหญ่อื่น ๆ .. ตัวอย่างปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่เป็นทางเลือกของมนุษยชาติในอนาคตที่น่าสนใจอย่างยิ่งในที่นี้ หมายถึง ปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น Nuclear Fusion Reactor .. เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นในการผลิตกำลังไฟฟ้านั้น เรียกอีกอย่างว่า โรงไฟฟ้าฟิวชั่น Fusion Power Plant หรือ ปฏิกรณ์เทอร์โมนิวเคลียร์ Thermonuclear Reactor เป็นระบบอุปกรณ์ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานที่เกิดขึ้นด้วยปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น ..
นิวเคลียร์ฟิวชั่น Nuclear Fusion นั้นสะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เชื้อเพลิงของมัน คือ ทรัพยากรที่มีปริมาณสำรองในธรรมชาติอย่างมากมายแทบจะไร้ขีดจำกัด เนื่องจากเป็นเพียงแค่ไฮโดรเจน และไอโซโทปของมันที่สร้างขึ้นจากน้ำได้อย่างง่ายดาย .. ดังนั้น เคแบงก์ ไพรเวทแบงก์กิ้ง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำแนะนำการลงทุน จึงมุ่งส่งเสริมให้นักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ให้เป็นแกนนำสำคัญในการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงโลกอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม เน้นลงทุนในธุรกิจและสินทรัพย์ที่มีการสนับสนุนเศรษฐกิจที่สร้างความยั่งยืนแก่โลก. ตัวอย่างโครงการวิจัยสำคัญที่ก้าวหน้าไปมาก ได้แก่ ข้อตกลงโครงการ ITER ซึ่งลงนามครั้งแรกในปี 2530 โดยสหรัฐฯ สหภาพยุโรป EU ญี่ปุ่น และรัสเซีย .. จีน และสาธารณรัฐเกาหลี เข้าร่วม ITER ในปี 2546 ตามด้วยอินเดียในปี 2548 ซึ่งทำให้ ITER คือ โครงการวิจัยทดลองฟิวชั่น Fusion Experiment ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากนานาชาติ 35 ประเทศ และถือเป็นโครงการวิทยาศาสตร์ข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย .. พลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่น Nuclear Fusion Energy ได้รับการคาดหมายว่า มันจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต .. Universal Studios ประเทศญี่ปุ่น ประกาศเตรียมจ้างพนักงานอายุ 60 ปีขึ้นไป มาทำงานที่สวนสนุก เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในประเทศ สวนทางกับ Disneyland ที่มีแผนเตรียมใช้ AI แทนคน…
ความเข้าใจของประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับพลังงานฟิวชั่นค่อนข้างต่ำ รวมทั้งมีความสับสนกันอยู่มากระหว่างฟิชชั่น Fission และฟิวชั่น Fusion ซึ่งเป็นเรื่องปกติ .. ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่จะนำแหล่งพลังงานฟิวชั่นมาผลิตกำลังไฟฟ้า จะต้องดำเนินการประชาสัมพันธ์ และสื่อสารเชิงรุกที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับเทคโนโลยี Fusion ที่สะอาด และปลอดภัยกว่าปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นเก่าในอดีต ให้แก่ผู้คน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างชัดเจน ถูกต้อง ก่อนที่การก่อสร้างจริงจะเริ่มขึ้น .. ในการสร้างสถานะสสารที่เรียกว่า พลาสม่า Plasma ให้ลุกโชนร้อนจัดในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบฟิวชั่นทดลอง เช่น โทคามัค Tokamak และ สเตลลาแรตเตอร์ Stellarator นั้น .. นักวิทยาศาสตร์ แสวงหาเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างง่ายในการผลิต จัดเก็บ และนำไปหลอมรวม .. เชื้อเพลิงที่ดีที่สุดในปัจจุบันสำหรับเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่น คือ ดิวเทอเรียม Deuterium และ ทริเทียม Tritium .. เชื้อเพลิงทั้ง 2 ตัวนี้ เข้าสู่สภาวะฟิวชั่นที่อุณหภูมิต่ำกว่า เมื่อเทียบกับองค์ประกอบอื่น ๆ และปล่อยพลังงานออกมามากกว่าปฏิกิริยาฟิวชั่นอื่น ๆ อีกด้วย ..
ทั้งนี้ เชื้อเพลิงที่กล่าวถึงทั้งหมด มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ในน้ำ แหล่งน้ำ และน้ำทะเลในมหาสมุทร .. การเข้าสู่ยุคของปฏิบัติจริง เป็นความท้าทายหลัก หลังจากกว่า 60 ปีของการวิจัยที่ยาวนานเกี่ยวกับการหลอมรวมด้วยสนามแม่เหล็ก Magnetic Fusion Power .. อุปสรรคส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่สำหรับพลังงานฟิวชั่น Fusion Energy คือ ปัญหาทางวิศวกรรมมากกว่าประเด็นอื่น ๆ แม้ว่าคำถามสำคัญทางฟิสิกส์ที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้นั้น ยังมีอยู่มากมายก็ตาม แต่คำตอบทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องเพื่อนำ Fusion Power มาใช้ผลิตกำลังไฟฟ้านั้น มีคำตอบครบถ้วนหมดสิ้นแล้ว .. กระบวนการหลอมรวม Fusion ต้องใช้เชื้อเพลิง และสภาพแวดล้อมเฉพาะ ซึ่งมีอุณหภูมิ ความดัน และเวลากักขังเพียงพอ เพื่อสร้างพลาสมาให้สามารถเกิด Fusion Reactions ขึ้นได้ .. การหลอมรวมนี้ ส่งผลให้เกิดพลังงานมหาศาลตามเกณฑ์ของลอว์สัน Lawson’s Criteria ..
การใช้จ่ายงบประมาณที่เพิ่มขึ้น สร้างความกังวลจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมาธิการงบประมาณในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ และประเทศสมาชิกอื่น ๆ ด้วย .. ทั้งนี้ ITER ยังไม่ใช่แผนงานเดียวที่สร้างความตื่นเต้นในชุมชนฟิวชั่น บริษัทสตาร์ทอัพเอกชนอย่างน้อย 12 แห่ง ได้เริ่มสำรวจแนวทางเลือกในการใช้ Fusion Power ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา .. บางส่วนกำลังทำงานเกี่ยวกับวิธีการกักขังพลาสม่าด้วยสนามแม่เหล็ก Magnetic Confinement Methods ที่แตกต่างกันเล็กน้อย ในขณะที่เอกชนบางบริษัท กำลังมุ่งดำเนินงานด้วยแนวทาง และนวัตกรรมใหม่อย่างแท้จริง ..